the shallows hd หนังหัวข้อนี้ฉายเมื่อวันนั้น เป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปให้ชักชวนนึกถึงผลงานหนังเรื่องอย่างเดิมออกฉายที่โรงหนังประเทศไทย โกรธแค้นทึกดวงใจกับหนังได้รับความนิยมเกินคาดที่มาพร้อมทั้งรายละเอียดที่จะต้องทำให้หัวใจเร็วรัว กับหนังเอาชีวิตรอด “The Shallows” (แดนนรกน้ำตื้น) ปลาฉลามหิวโหดเหี้ยมที่ต้อนหญิงสาวเป็นเหยื่อกึ่งกลางสมุทร ที่แปลงเป็นหนังได้รับความนิยมแบบเหนือความหวังเมื่อปี 2016
The Shallows เกิดเรื่องราวของ แนนซี่ นักเล่นกระดานที่มีไว้เล่นโต้คลื่น ที่ได้เลือกดำรงชีวิตตอนวันหยุดบนเกาะที่เป็นราวกับสรวงสวรรค์ของนักโต้คลื่น แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่งเกาะที่เป็นเหมือนดั่งสรวงสวรรค์ที่นี้ กลับมีสัตว์ร้ายใต้สมุทรอย่าง ปลาฉลาม บุกเล่นงานใส่คุณอย่างคลุ้มคลั่ง งานนี้คุณจะเอาชีวิตรอดจากหายนะคราวนี้ได้ไหม
หนังขึ้นแท่นได้ผลสำเร็จงานระดับมาสเตอร์พีชของ “เบลค ไลฟ์ลี่” ไปอีกประเด็น หนังได้ผลหน้าที่การงานควบคุมของ “โจเม่ วัวลเล็ต-เซอร์ร่า” ที่ก้าวหน้าเพราะเหตุว่าหนังประเด็นนี้แท้ๆเดี๋ยวนี้เขาได้รับจังหวะใหญ่ๆดูแลหนังฟอร์มยักษ์แถวหน้าของฮอลลิวูดล้วนๆแต่ว่าสำหรับใน The Shallows เป็นหนังเล็กๆที่มอบอารมณ์ที่น้อยแต่ว่ามากมาย เต็มไปด้วยความเขย่าขวัญรวมทั้งกระตุกความเสียวของผู้ชมได้อย่างถูกจังหวะ
“The Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี
เปิดประตูสู่ข้อเท็จจริง เมื่อภาพยนตร์ “The Pope’s Exorcist โป๊บปราบผี” ได้รับแรงดลใจสำหรับเพื่อการผลิตมาจากแฟ้มเหตุจริงของหลวงบิดา“เกเบรียล อามอร์ธ” ผู้กระทำหน้าที่ปราบผีที่นครวาติเตียนกัน โดยหนังมีการเล่าราวผ่านประเด็นของศาสนาคริสต์ ที่มีมิติไม่เน้นไปทางด้านศาสนา แม้กระนั้นเคล้าให้พวกเราได้สัมผัสกับความเลื่อมใสหลายมุมมองของศาสนามีอีกทั้งบาปรวมทั้งความอำมหิตที่ยังคงตามติดตัวมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ หากแม้เวลาจะแปลงผันแต่ว่าความประพฤติปฏิบัติของพวกเราจะอยู่ประจำตัวพวกเราเสมอ แล้วก็เจอกับความสยองขวัญจนปัญญาเต้นแรง พร้อมแผงอำนาจศักดิ์สิทธิ์การปราบผีทั่วทุกหย่อมหญ้าไปกับเขา
เรื่องราวของ นักบวชอามอร์ธ เขาได้สืบเรื่องราวการเช็ดกอยู่ที่โบสถ์เซนต์ เซบาสเตียนในประเทศค้างสติล ประเทศสเปน แต่งงานหนึ่งกำลังเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการบูรณะตึกโบราณ โบสถ์ที่นี้มีประวัตินานกับพระคริสตจักรคาธอลิค และก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นตรงนั้น ได้ถูกเผยออกมา เรื่องราวกลุ่มนี้เกิดขึ้นระหว่างตอนที่มืดสนิทที่สุดของพระคริสตจักรคาธอลิค เพราะเหตุว่ามีการลงทัณฑ์ผู้ที่การแสดงออกของพวกเขามิได้สื่อถึงการมีเชื่อถืออย่างถ่องแท้ พวกเราทุกคนต่างก็รู้สึกว่าโน่นเป็นแนวทางที่เยี่ยมสำหรับในการเจาะลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ของประเทศสเปน
เปิดเผยความสามารถของ กาเบรียล อามอร์ธ ผ่านการปราบผีตั้งแต่เริ่ม ก่อนที่จะโยงไปสู่สถานที่หลักที่กำลังเริ่มจะมีครอบครัวหนึ่งย้ายที่อยู่ฐานมาเพื่อเริ่มชีวิตใหม่เมื่อเป็นอย่างเดียวที่ครอบครัวคงเหลือ ในระกว่างการบูรณะตึกพวกเขาได้เริ่มเผชิญกับสิ่งพิศดารเหนือธรรมชาติ และไม่บางทีอาจเลี่ยงได้เมื่อมารได้อยู่เด็กวัยรุ่นเฮนรี่ ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้ กาเบรียล อามอร์ธ จำเป็นต้องมาสู่สถานที่ที่นี้ แล้วก็เกิดเหตุราวขึ้นทั้งสิ้น โดยรายละเอียดสำหรับการเล่าจะมิได้ใส่คำกล่าวอบรมสั่งสอน หรือการยกเรื่องความเชื่อถือเข้ามามากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นปักหลักในด้านความเชื่อที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะได้ให้พวกเรานั้นสามารถต่อต้านกับสิ่งเลวร้าย แล้วก็บาปที่เคยทำไว้ได้
มีการวางเงื่อนความแค้นของปีศาจร้าย พร้อมพลังร้ายแรงที่ทำให้ครอบครัวและก็ผู้คนรอบกายต่างพากันเจ็บ สติหนีเตลิดเปิดเปิง ในระหว่างการหาวิธีช่วยเหลือ อามอร์ธได้ตามล่ากล่าวโทษจริงในสถานที่ที่นี้ทำให้เขาเจอกับความลี้ลับที่เคยเกิดขึ้น แล้วก็ความเจ็บในความเลื่อมใสก่อนหน้านี้ แม้ถามหาความจุดสำคัญมันก็มีให้พวกเราได้สัมผัสในตอนการปีนระดับอารมณ์หาวิธีการช่วยเหลือเกื้อกูล รวมทั้งการเผชิญหน้ากับบาปที่พวกเราเคยทำเอาไว้ซึ่งบาปนั้นตามติดตัวเราอยู่เสมอ แม้กระนั้นมันก็สามารถทายใจทางได้มิได้มีท่วงทีสำหรับเพื่อการเล่าที่สลับซับซ้อนเท่าไรนัก ทั้งความสยองขวัญที่ยกเอาไว้มิได้ทำให้พวกเราสะพรึงกลัวอะไร มีเพียงแต่ความลุ้นระทึกเข้ามาให้ได้สัมผัสความแค้นของปีศาจร้าย
การแสดงของผู้แสดงหัวข้อนี้นับว่าดีเลิศทีเดียว เช่น เฮนรี่ ผู้แสดงเด็กที่โดนภูติผีอยู่ เขาสามารถถ่ายทอดความเจ็บ ความขุ่นเคืองผ่านแววตา ท่าทีออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ผสมไปกับเอฟเฟกต์ที่ทำให้พวกเราได้สัมผัสความสะพรึงกลัวเพิ่มมากขึ้น และก็ยังรวมทั้ง อามอร์ธ บางครั้งก็อาจจะเป็นการแสดงที่เสมือนจะไม่เอาจริงเอาจังเรื่องอารมณ์มากสักเท่าไรนัก แต่ว่าเขาทำให้พวกเราได้สัมผัสว่าเขานั้นมีบาปที่ตามติดตัวมาและก็ยังเป็นเงื่อนฝังในจิตใจ ไม่กล้าก้าวผ่านมันออกไปได้ ทั้งในช่วงท้ายของหนังเขายังจำต้องวาดความสามารถหนักพอควร ผู้แสดงอื่นๆเสริมกองทัพเข้ามาเจริญ ทั้งยังแม่ พี่สาว ที่มีความระแวดระวังขวัญผวา หรือผู้แสดงโก้ๆอย่างโทมัส ที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยของ อาร์มอธได้อย่างแน่วแน่ และก็มีความเลื่อมใสต่อพระผู้เป็นเจ้า
การตัดต่อ และก็ส่วนประกอบดี เอ่ยถึงฉากแม้ว่าจะมีการใช้ CG เข้ามาเสริมกองทัพ แม้กระนั้นก็ให้สัมผัสบรรยากาศความสมจริงสมจังในรูปภาพมุมกว้าง ถัดมาด้วยการสร้างสถานที่มาเป็นโบสถ์เก่า ทำให้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศความมืดมนหม่นหมอง ลึกลับของสถานที่นั้นด้วยมูดแอนด์โทนในช่วงกลางคืน และก็เครื่องเรือนไม้ องค์ประกอบตึกเก่าที่กำลังสร้าง การวางเครื่องใช้ไม้สอยประกอบฉากให้ความลื่นไถลตาไม่ขัดข้อง หากแม้เรื่องแสงสว่างขณะนั้นๆอาจจะส่งผลให้ตงิดหัวใจอยู่บ้าง ด้วยกลางคืน แม้กระนั้นมีแสงไฟลอดผ่านทางช่องแสงสว่างต่างๆแม้กระนั้นด้วยส่วนประกอบการถ่ายทำถ้าหากว่าไม่มีแสงสว่างก็บางครั้งอาจจะไม่สามารถที่จะเห็นเนื้อหาได้ ก็แค่บางทีก็อาจจะเกลี่ยแสงสว่างให้กลมกลืนกับขณะมากขึ้น
The Covenant”
ถึงคิวผลงานใหม่อีกหนึ่งเรื่องของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่ได้ได้โอกาสลงโรงฉายในประเทศไทยแบบชนกันทั้งคู่เรื่อง (อีกหัวข้อก็คือ Operation Fortune: Ruse de guerre) ในอาทิตย์ช่วงเวลากลางเดือนเดือนเมษายน รวมทั้งหัวข้อนี้เป็น “The Covenant” ที่มาพร้อมด้วยโหมดจริงจัง พกกองกำลังทหารสหรัฐอเมริกา มาอย่างมาดแมน แต่ว่าเนื้อแท้ของหนังหัวข้อนี้แทรกสอดไปด้วยหลักสำคัญมิตรภาพ ความมุ่งมาด แล้วก็ช่องทางในการสู้รบ ที่ดีไม่ดีบางทีก็อาจจะจะต้องเสียน้ำตาให้ด้วย
The Covenant เกิดเรื่องราวของ นายสิบสิบเอก จอห์น คินลีย์ กับ อาเหม็ด ล่ามภาษาชาวอัฟกัน ที่จำเป็นต้องระเหินระหกต่อสู้ป่าตาลีบานด้วยกัน ภายหลังจากกองกำลังของพวกเขาได้ถูกซุ่มจู่โจมอย่างมากถ่วง โดยที่อาเหม็ดได้อุตสาหะอย่างเต็มความสามารถเพื่อจะช่วยจอห์นเอาไว้ให้ได้ แม้กระนั้นเมื่อจอห์นฟื้นขึ้นมารู้ว่า อาเหม็ดยังคงหลบๆแอบซ่อนๆอยู่ที่อัฟกานิสถาน ที่ตาลีบานได้หมายหัวเขาเอาไว้จากความกล้าหาญที่เขาได้ช่วยเหลือทหารอเมริกันเอาไว้ ทำให้เขาเลือกที่จะกลับไปสู่สนามรบตนเองอีกที เพื่อช่วยเหลือ…สหายร่วมรบ
รวมทั้งอีกเหมือนปกติ The Covenant ก็ยังคงได้ผลสำเร็จหน้าที่เขียนบทหนังของ 3 ทหารเสือหน้าคุ้น กาย ริตชี ร่วมด้วย อิแวน แอตคินสัน กับ มาร์น เดวีส์ ที่พวกเขาทั้งคู่คนต่างประสานมือกันเขียนบทแล้วก็ปรับปรุงบทมาด้วยกันในผลงานหลายๆหัวข้อนี้ สำหรับในหนังหัวข้อนี้นั้นนับว่ามีกลิ่นที่ต่างไปจากงานเดิมของพวกเขาอยู่ไม่น้อย ถึงแม้มันจะยังแทรกสอดกลิ่นความเป็นหนังสุภาพบุรุษแนวถนัดอยู่ไปบ้าง แม้กระนั้นกับมีเส้นเรื่องและก็ส่วนประกอบอื่นที่หนักแน่นมากกว่าโดยจะว่าไปแล้ว The Covenant นับว่าเป็นหนังที่มีซีนรวมทั้งทีท่าที่ชื่นชมกองทัพสหรัฐอเมริกา อยู่พอได้ แต่ว่าพวกเขาก็มิได้ทำออกมาเป็นหนังกองทัพคะๆแบบเชิญมันอะไรทำนอง แต่สดุดหน้าที่เล็กๆที่สำคัญในการสู้รบกับตาลีบานที่คงจะถูกละเลยไป อย่างข้าราชการล่ามภาษาพื้นบ้าน ที่นับว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และก็เสี่ยงอันตรายกับการดำรงชีวิตในสังคม เพื่อมาปฏิบัติภารกิจสำหรับเพื่อการแปลภาษาให้กับข้างศัตรูของภูมิลำเนาของพวกเขา
จะต้องเห็นด้วยว่าเค้าเรื่องกล้วยๆของหนังเป็นจุดที่ทำให้มันเวิร์กได้ดิบได้ดี เมื่อมารวมกับการเล่าเรื่องที่มิได้มีอะไรสลับซับซ้อน The Convenant ก็เลยแปลงเป็นหนังแอคชั่นด้านการทหารที่มองได้บันเทิงใจเพลิดเพลินเอาการ เรื่องราวค่อนๆสองเท่าความเข้มข้นเป็นลำดับขั้นของเหตุการณ์ที่หนังผลิตขึ้นมาในแต่ละซีน ถึงมันจะยังมีจุดที่เกินจริงและไม่มีเหตุผลปนเปอยู่ไปบ้าง แต่ว่าหนังก็มอบความรื่นเริงใจแบบที่ผู้ชมอยากได้อย่างดีเยี่ยมโลเคชั่นของหนังประเด็นนี้จัดว่าแจ่มมากมาย แน่ๆว่าพวกเขาเป็นไปไม่ได้ไปถ่ายทำในสถานที่จริงอยู่แล้ว แต่ว่าการเลียนแบบบรรยากาศของอัฟกานิสถานในหนังหัวข้อนี้จัดว่าออกจะใช้ได้ทีเดียว ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วในหนังพวกเขาจะถ่ายทำอยู่ในประเทศสเปนเป็นหลัก ส่วนมุมภาพรวมทั้งมุมกล้องถ่ายภาพก็ยังไม่ทิ้งลวดลายของ กาย ริตชี วิธีต่างๆบางครั้งอาจจะมิได้มีลูกเล่นอะไรเยอะแค่ไหน แต่ว่ามีส่วนสำหรับเพื่อการช่วยบิวท์อารมณ์รวมทั้งบรรยากาศของหนังไว้ภายในจังหวะที่ดี
ยิ่งมาได้เรื่องแสดงที่เป็นมือโปรของ “เจค จิลเลนฮาล” เข้าไปด้วย ยิ่งทำให้หนังเต็มไปด้วยอรรถรสเข้าไปใหญ่ เขามอบการแสดงที่เด็ดขาดสไตล์ของเขา เล่นน้อยแต่ว่าให้ออกมามากมาย ถึงจะมิได้เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีชอะไร แม้กระนั้นเขาก็คือนักแสดงหลักที่หามหนังประเด็นนี้เอาไว้ได้อย่างดียิ่ง เหมือนกับ “ดาร์ ซาลิม” ที่ไม่เอ่ยถึงมิได้เลย จัดว่าบทส่งให้เขาอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นค้างแรกเตอร์นี้เต็มไปด้วยมากมายมุมให้น่าตรวจสอบ รวมทั้งเขาก็ทำออกมาก้าวหน้า ในลักษณะไม่ค่อยพูดต่อยหนัก
Operation Fortune ปฏิบัติงานระห่ำ โคตรคนฟอร์จูน
หนึ่งในผลงานปัจจุบันของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่เข้าฉายในบ้านพวกเราชนกันกลางม.ย.อย่างนี้ (อีกหนึ่งเรื่องเป็น The Covenant) ก็คือหนังแอคชั่นสายค้างโหลดอง “Operation Fortune: Ruse de guerre ปฏิบัติงานระห่ำ โคตรคนฟอร์จูน” ที่ยังคงสไตล์ความเป็นหนังคุณกายก้าวหน้า กับกองทัพผู้แสดงชั้นยอดเยี่ยมเป็นตับ รวมทั้งทำการสายที่แทรกสอดถ้อยคำรวมทั้งความบาดใจแบบรู้จักดี
Operation Fortune: Ruse de guerre เล่าราวของ ข้าราชการผู้ที่มีความชำนาญด้านอาวุธที่ MI6 ถูกเรียกตัวให้มาช่วยทำภารกิจออกติดตามแล้วก็ยั้งแนวทางการขายอาวุธทำลายประเภทใหม่ ซึ่งอาวุธนี้ได้เป็นภัยรุกรามความสงบสุขของโลก เพื่อจะเข้าถึงจุดหมายได้ เขาต้องแบล็กเมล์ศิลปินชายหนุ่มมีชื่อให้มาร่วมภารกิจด้วย โดยการทำหนว่าเขากำลังจะเล่นบทเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน คนกลางอาวุธ ในหนังที่มหาเศรษฐีผู้นี้กำลังจะให้ทุนสร้างให้
แน่ๆว่าหนังก็ยังคงเป็นการดูแลแล้วก็เขียนบทโดย กาย ริตชี อีกเหมือนปกติ โดยเขาได้ผู้ช่วยเหลือผู้เขียนที่รู้จักดีกันดี อย่าง “อีแวน แอตคินสัน” กับ “มาร์น เดวีส์” ที่ร่วมงานกันมาในผลงานแอคชั่นสุภาพบุรุษมาหลายเรื่อง โดยกลับมาในคราวนี้พวกเขาได้บากบั่นสร้างภาพยนตร์แอคชั่นผสมถ้อยคำอารมณ์ขัน กับรายละเอียดการสอบสวนที่เข้มข้นและก็เต็มไปด้วยพนันแม้กระนั้นโชคร้ายอย่างยิ่งที่ว่า Operation Fortune: Ruse de guerre ยังออกจะเต็มไปด้วยส่วนประกอบมากมายก่ายกองที่ขาดๆเกินๆอยู่ และก็ยังเป็นหนังที่บทเต็มไปฉากเจรจาแบบไม่มีหยุด ถึงจะเป็นยังมีท่วงทีและก็รักษาเอกลักษณ์ของสไตล์ผู้กำกับเอาไว้อยู่ กับการมีนักแสดงชั้นหนึ่งมากมายก่ายกองในร่วมแข่งขันหน้าที่ แม้กระนั้นพลังศิลปินของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะดึงดูดสายตาได้พอเพียง กับจังหวะและก็ส่วนประกอบที่ยังไม่บางทีอาจเข้าถึงได้มาก กล่าวได้ว่าถ้าหากคนไหนกันแน่จะมามองหาหนังบู๊เดือดๆกับประเด็นนี้บางครั้งอาจจะจำเป็นต้องผิดหวังกลับไป
ตอนครึ่งแรกของ Operation Fortune: Ruse de guerre ยังค่อนข้างจะไม่มีเสน่ห์ที่ต้องมีไปหน่อย ถึงจะเป็นตอนๆที่ปฏิบัติภารกิจปูเรื่องแล้วก็ชี้แนะติดอยู่แรกเตอร์ต่างๆแต่ยังปฏิบัติหน้าที่ออกมาได้ไม่แจ่มว้าวพอเพียง ส่วนหนึ่งส่วนใดน่าจะเป็นด้วยเหตุว่าการวางแบบค้างแรกเตอร์ผู้แสดงที่ยังไม่ค่อยมีมิติมากแค่ไหน เมื่อเพิ่มเติมกับงานสร้างที่ไม่ทราบว่าทุนไม่เยอะแยะหรือไม่ แม้กระนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หนังขาดความสมจริงสมจังรวมทั้งน่าไว้วางใจได้พอสมควรเลย”เจสัน สเตธัม” ก็ยังคงมารับบทแบบบ่อยๆเดิมๆสไตล์เขาอีกที ค้างแรกเตอร์ของเขานั้นแทบไม่แตกต่างไปจากผลงานก่อนๆเยอะแค่ไหนเลย แนวทางการเล่นรวมทั้งลีลาท่าทางการแสดงก็ยังทำออกมาเดิมๆถึงมันจะเป็นเอกลักษณ์ที่ส่วนตัวสำหรับเขา แม้กระนั้นโชคร้ายที่การถือท่าทางนี้มาใช้หนังของเขาหัวข้อนี้ยังไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ เจสัน ก็ เจสัน อย่างเดิมนั่นแหละ
จะมีก็เพียงแต่ “ออเดรย์ พลาซา” ที่ลักขโมยซีนแล้วก็โปรยปรายเสน่ห์ในหนังประเด็นนี้ได้อย่างพลิกล็อก แม้กระนั้นดาราหนังเอลิสต์คนอื่นไม่ว่าจะเป็น “ฮิวจ์ มึงรนต์” หรือ “หน้าจอช ฮาร์ตเน็ต” ที่ทำเป็นแค่เพียงถอนใจเบาๆด้วยเหตุว่าน่าผิดหวังไปสักนิดสักหน่อย ที่หนังได้ศิลปินเบอร์ขนาดนี้มาแข่งขันหน้าที่บนหน้าจอแบบแน่นอนแต่ถ่ายทอดออกมายังไ